อุทยานแห่งชาติคลองพนม ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่ป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน สวยงาม ดูลึกลับแปลกตา อีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ซึ่งเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชุมชนแถบนี้ ซึ่งผืนป่าแห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 จัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 102 ของประเทศไทย
ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา กินเนื้อที่กว่า 80% ของอุทยาน โดยเป็นแนวสันเขาที่ลากยาวจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน มีความสูงชันสลับซับซ้อน บางแห่งมีหน้าผาสูงชัน โดยจุดสูงสุดอยู่บริเวณช่วงกลาง ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 870 เมตร
ลักษณะภูมิอากาศ
อุทยานแห่งชาติคลองพนม เป็นป่าที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน ทำให้มีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี โดยฤดูฝนจะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม – เดือนธันวาคม ซึ่งในช่วงเดือนสิงหาคม – เดือนตุลาคมจะเป็นช่วงที่ฝนตกชุกมากที่สุด ส่วนในฤดูร้อนจะมีอากาศร้อยที่สุดในช่วงเดือนเมษายน โดยระยะเวลาที่เหมาะสมกับการมาเยี่ยมชม จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม – เดือนเมษายน
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติคลองพนม
ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองพนม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ดังนี้
ชมบัวผุด
บัวผุดหรือบัวตูม เป็นไม้กาฝากชนิดหนึ่ง เติบโตอยู่บนรากของพืชสกุลเครือเขาน้ำ มีลักษณะเด่นที่ดอก โดยเป็นดอกเดียวขนาดใหญ่ขึ้นจากพื้นดิน มีกลิ่นเหม็นมาก โดยจะมีดอกระหว่างฤดูฝน และจะบานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคม ในเขตอุทยานจะพบบัวผุดบริเวณเขาหลังบ้านถ้ำผึ้ง หมู่ที่ 6 ตำบลคลองศก อำเภอพนม โดยใช้เส้นทางบนถนนสายหลักสุราษฎร์ธานี–ตะกั่วป่า แล้วเข้าไปช่วงหลักกิโลเมตรที่ 108 ประมาณ 4 กิโลเมตร จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงแหล่งที่มีบัวผุด
ถ้ำแก้ว
เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม มีรูปร่างแปลกตา อีกทั้งในถ้ำยังมีห้องย่อย ๆ อีก 4 ห้อง ได้แก่ ห้องฤาษี ห้องม้าน้ำ ห้องหม้อยา และห้องเกล็ดแก้ว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที ในการเดินชมความงามของถ้ำแก้วในทุกซอกทุกมุม โดยถ้ำแห่งนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 2 กิโลเมตร และต้องเดินเลียบเชิงเขาเพื่อไปถึงบริเวณปากถ้ำอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
ถ้าน้ำลอดเขาวงก์
อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ คพ. 1 (บ้านคลองพนม) ประมาณ 5 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีลำธารซึ่งมีน้ำไหลผ่านตลอด มีหินงอกหินย้อยสวยงามแปลกตา ซึ่งอีกด้านหนึ่งของถ้ำ จะเป็นค่ายคอมมิวนิสต์เก่า ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ โดยใช้ระยะเวลาเดินจากหน้าถ้ำ ไปยังอีกด้านประมาณ 40 นาที อีกทั้งถ้ำแห่งนี้ยังมีฝูงค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
น้ำตกเขาวงก์
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันลงสู่ลำธารด้านล่าง มีความสูงรวม 8 ชั้น สายน้ำที่เกิดเป็นน้ำตกแห่งนี้ เป็นสายน้ำเดียวกับสายน้ำที่ผ่านถ้ำน้ำลอดเขาวงก์ เป็นแหล่งต้นน้ำคลองพนม และถือว่าเป็นแหล่งน้ำสำคัญของค่ายคอมมิวนิสต์ ที่เคยจัดตั้งกองกำลังอยู่ในบริเวณนี้ด้วย
น้ำตกโตนไทร
เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีความสูงทั้งสิ้น 12 ชั้น เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามน่าหลงใหล ผืนป่ารอบ ๆ มีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิด อีกทั้งบริเวณน้ำตกยังมีต้นไทรขึ้นปกคลุมอยู่หนาแน่น ตัวน้ำตกอยู่ห่างจากหมู่บ้านสะพานนาคหมู่ที่ 5 ประมาณ 3.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถยนต์ไปที่ตัวหมู่บ้าน และเดินเท้าต่อไปยังตัวน้ำตก โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ล่องลำน้ำคลองศก (วังมัจฉา–บ้านเชียวปง)
เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติทางน้ำ ใช้ระยะเวลาในการล่องลำน้ำประมาณ 2 ชั่วโมง มีจุดเริ่มเส้นทางห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 1 กิโลเมตร หรือบริเวณวังมัจฉา ซึ่งมีสายพันธุ์ปลาหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ปลาแรด ปลาตะเพียนหางแดง และปลากดหิน เป็นต้น โดยตลอดสองฝั่งคลองจะมีภูเขาหินปูน ซึ่งมีความสูงชันเป็นหน้าผาที่สวยงามน่าประทับใจ
ล่องแก่งลำน้ำคลองพนม–บ้านเบญจา
จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งจะอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่คพ.1 (บ้านคลองพนม) ใช้ระยะเวลาในการล่องแก่งทั้งสิ้นประมาณ 4 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายและความตื่นเต้น โดยช่วงที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่างเดือนสิงหาคม – เดือนธันวาคม ซึ่งเป็นฤดูน้ำหลากมีน้ำไหลเชี่ยว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมกับความงามของพันธุ์ไม้นานาชนิด ที่ยังคงความสวยงามและความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ
เส้นทางศึกษาธรรมชาติต้นไม้ใหญ่
เส้นทางนี้มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 200 เมตร ระหว่างเส้นทางมีป่าไม้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ มีจุดชมทิวทัศน์ซึ่งอยู่บนโขดหินที่มีความสวยงาม โดยจุดเด่นที่สุดของเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ คือ ต้นกระบากขาว ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีขนาดรอบต้นยาวถึง 12 เมตร
การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติคลองพนม
สามารถขับรถโดยใช้ถนนเส้นสุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า หรือใช้บริการรถโดยสารสายสุราษฎร์ธานี – ภูเก็ต รวมถึงรถตู้สายสุราษฎร์ธานี – เขาศก โดยให้ลงรถที่หน้าป้ายอุทยานแห่งชาติคลองพนม หลักกิโลเมตรที่ 80
สิ่งอำนวยความสะดวก
ภายในอุทยานมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าคอยให้บริการนำทางเดินป่าเพื่อไปชมดอกบัวผุด โดยสามารถติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติคลองพนม โทรศัพท์ 077-299-298
อุทยานแห่งชาติคลองพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีจุดเด่นอยู่ที่ภูเขาหินปูนสูงชัน มีน้ำตกที่สวยงาม อีกทั้งยังร่ำรวยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีจุดเด่นอยู่ที่ต้นกระบากขาวขนาดใหญ่ และดอกบัวผุดที่บานรอคอยนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม อุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายจุดถึงเพียงนี้ เห็นทีจะต้องหาโอกาสแวะมาเที่ยวชมสักครั้ง
ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา กินเนื้อที่กว่า 80% ของอุทยาน โดยเป็นแนวสันเขาที่ลากยาวจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน มีความสูงชันสลับซับซ้อน บางแห่งมีหน้าผาสูงชัน โดยจุดสูงสุดอยู่บริเวณช่วงกลาง ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 870 เมตร
ลักษณะภูมิอากาศ
อุทยานแห่งชาติคลองพนม เป็นป่าที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน ทำให้มีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี โดยฤดูฝนจะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม – เดือนธันวาคม ซึ่งในช่วงเดือนสิงหาคม – เดือนตุลาคมจะเป็นช่วงที่ฝนตกชุกมากที่สุด ส่วนในฤดูร้อนจะมีอากาศร้อยที่สุดในช่วงเดือนเมษายน โดยระยะเวลาที่เหมาะสมกับการมาเยี่ยมชม จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม – เดือนเมษายน
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติคลองพนม
ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองพนม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ดังนี้
ชมบัวผุด
บัวผุดหรือบัวตูม เป็นไม้กาฝากชนิดหนึ่ง เติบโตอยู่บนรากของพืชสกุลเครือเขาน้ำ มีลักษณะเด่นที่ดอก โดยเป็นดอกเดียวขนาดใหญ่ขึ้นจากพื้นดิน มีกลิ่นเหม็นมาก โดยจะมีดอกระหว่างฤดูฝน และจะบานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคม ในเขตอุทยานจะพบบัวผุดบริเวณเขาหลังบ้านถ้ำผึ้ง หมู่ที่ 6 ตำบลคลองศก อำเภอพนม โดยใช้เส้นทางบนถนนสายหลักสุราษฎร์ธานี–ตะกั่วป่า แล้วเข้าไปช่วงหลักกิโลเมตรที่ 108 ประมาณ 4 กิโลเมตร จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงแหล่งที่มีบัวผุด
ถ้ำแก้ว
เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม มีรูปร่างแปลกตา อีกทั้งในถ้ำยังมีห้องย่อย ๆ อีก 4 ห้อง ได้แก่ ห้องฤาษี ห้องม้าน้ำ ห้องหม้อยา และห้องเกล็ดแก้ว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที ในการเดินชมความงามของถ้ำแก้วในทุกซอกทุกมุม โดยถ้ำแห่งนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 2 กิโลเมตร และต้องเดินเลียบเชิงเขาเพื่อไปถึงบริเวณปากถ้ำอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
ถ้าน้ำลอดเขาวงก์
อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ คพ. 1 (บ้านคลองพนม) ประมาณ 5 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีลำธารซึ่งมีน้ำไหลผ่านตลอด มีหินงอกหินย้อยสวยงามแปลกตา ซึ่งอีกด้านหนึ่งของถ้ำ จะเป็นค่ายคอมมิวนิสต์เก่า ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ โดยใช้ระยะเวลาเดินจากหน้าถ้ำ ไปยังอีกด้านประมาณ 40 นาที อีกทั้งถ้ำแห่งนี้ยังมีฝูงค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
น้ำตกเขาวงก์
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันลงสู่ลำธารด้านล่าง มีความสูงรวม 8 ชั้น สายน้ำที่เกิดเป็นน้ำตกแห่งนี้ เป็นสายน้ำเดียวกับสายน้ำที่ผ่านถ้ำน้ำลอดเขาวงก์ เป็นแหล่งต้นน้ำคลองพนม และถือว่าเป็นแหล่งน้ำสำคัญของค่ายคอมมิวนิสต์ ที่เคยจัดตั้งกองกำลังอยู่ในบริเวณนี้ด้วย
น้ำตกโตนไทร
เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีความสูงทั้งสิ้น 12 ชั้น เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามน่าหลงใหล ผืนป่ารอบ ๆ มีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิด อีกทั้งบริเวณน้ำตกยังมีต้นไทรขึ้นปกคลุมอยู่หนาแน่น ตัวน้ำตกอยู่ห่างจากหมู่บ้านสะพานนาคหมู่ที่ 5 ประมาณ 3.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถยนต์ไปที่ตัวหมู่บ้าน และเดินเท้าต่อไปยังตัวน้ำตก โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ล่องลำน้ำคลองศก (วังมัจฉา–บ้านเชียวปง)
เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติทางน้ำ ใช้ระยะเวลาในการล่องลำน้ำประมาณ 2 ชั่วโมง มีจุดเริ่มเส้นทางห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 1 กิโลเมตร หรือบริเวณวังมัจฉา ซึ่งมีสายพันธุ์ปลาหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ปลาแรด ปลาตะเพียนหางแดง และปลากดหิน เป็นต้น โดยตลอดสองฝั่งคลองจะมีภูเขาหินปูน ซึ่งมีความสูงชันเป็นหน้าผาที่สวยงามน่าประทับใจ
ล่องแก่งลำน้ำคลองพนม–บ้านเบญจา
จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งจะอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่คพ.1 (บ้านคลองพนม) ใช้ระยะเวลาในการล่องแก่งทั้งสิ้นประมาณ 4 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายและความตื่นเต้น โดยช่วงที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่างเดือนสิงหาคม – เดือนธันวาคม ซึ่งเป็นฤดูน้ำหลากมีน้ำไหลเชี่ยว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมกับความงามของพันธุ์ไม้นานาชนิด ที่ยังคงความสวยงามและความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ
เส้นทางศึกษาธรรมชาติต้นไม้ใหญ่
เส้นทางนี้มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 200 เมตร ระหว่างเส้นทางมีป่าไม้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ มีจุดชมทิวทัศน์ซึ่งอยู่บนโขดหินที่มีความสวยงาม โดยจุดเด่นที่สุดของเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ คือ ต้นกระบากขาว ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีขนาดรอบต้นยาวถึง 12 เมตร
การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติคลองพนม
สามารถขับรถโดยใช้ถนนเส้นสุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า หรือใช้บริการรถโดยสารสายสุราษฎร์ธานี – ภูเก็ต รวมถึงรถตู้สายสุราษฎร์ธานี – เขาศก โดยให้ลงรถที่หน้าป้ายอุทยานแห่งชาติคลองพนม หลักกิโลเมตรที่ 80
สิ่งอำนวยความสะดวก
ภายในอุทยานมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าคอยให้บริการนำทางเดินป่าเพื่อไปชมดอกบัวผุด โดยสามารถติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติคลองพนม โทรศัพท์ 077-299-298
อุทยานแห่งชาติคลองพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีจุดเด่นอยู่ที่ภูเขาหินปูนสูงชัน มีน้ำตกที่สวยงาม อีกทั้งยังร่ำรวยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีจุดเด่นอยู่ที่ต้นกระบากขาวขนาดใหญ่ และดอกบัวผุดที่บานรอคอยนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม อุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายจุดถึงเพียงนี้ เห็นทีจะต้องหาโอกาสแวะมาเที่ยวชมสักครั้ง