แพเพลินไพร เขื่อนเชี่ยวหลาน แวะพักผ่อนชมสายหมอก เที่ยวน้ำตก ลงเล่นน้ำ

มกราคม 18, 2553
แพเพลินไพร เป็นหนึ่งในแพเอกชนเก่าแก่ ตั้งอยู่ในคลองโหลง เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เวลาในการเดินทางจากท่าเรือมาถึงแพเพลินไพร ประมาณ 45 นาที ซึ่งแพเพลินไพรตั้งอยู่บริเวณกลางอ่าวพอดี เป็นจุดที่ทำเลเหมาะสมและสวยงามอย่างมาก (ที่พักแบบ 2 วัน 1 คืน) และ (ที่พักแบบ 3 วัน 2 คืน) บรรยากาศที่พักมีความเป็นส่วนตัวและเป็นกันเอง รอบล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม ทำให้ได้ความรู้สึกของการพักผ่อนเพื่อความผ่อนคลายอย่างแท้จริง และแพเพลินไพรยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานเพลิดเพลินหลายอย่าง เช่น เดินป่า พายเรือคายัค ว่ายน้ำ ส่องสัตว์ ดูนก ชมค้างคาวยามเย็น และคาราโอเกะ เพื่อรองรับกรุ๊ป หรือหมู่คณะใหญ่อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติเขาสก
ป่าที่เขียวชอุ่ม สายหมอกที่ลอยโอบขุนเขา และความเย็นฉ่ำของเขื่อนรัชชประภา เป็นเสน่ห์ที่ชวนหลงใหลของอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งเป็นป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ เป็นอุทยานที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ป่าเขามีความสมบูรณ์ มีพื้นที่ 403,450 ไร่ หรือ 645.52 ตารางกิโลเมตร ครบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอพนมกับอำเภอคีรีรัฐนิยม ซึ่งสภาพโดยทั่วไปก็คือ เป็นภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน มีแนวหน้าผามากมาย ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของภูเขาทางแถบนี้ มีความคล้ายคลึงกับเทือกเขาที่จังหวัดกระบี่ และนอกจากธรรมชาติอันสวยงาม อุทยานแห่งชาติเขาสก ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น เดินป่า เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ดูนก นั่งช้างและล่องแก่ง

ไฮไลต์ของอุทยานแห่งชาติเขาสก
กิจกรรมที่นักท่องธรรมชาติ ต่างให้ความสนใจกันอย่างมาก และคาดหวังว่าจะต้องทำความฝันนี้ให้เป็นจริงให้ได้ก็คือ การเดินป่าเขาสกเพื่อตามหาพืชพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่เท่านั้น นั่นก็คือ บัวผุด หรือกระโถนฤาษี เป็นพืชมหัศจรรย์ที่จะบานแค่ครั้งเดียวในรอบหนึ่งปีเท่านั้นซึ่งจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมกราคม มีลักษณะเป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีจุดศูนย์กลางของตัวดอกประมาณ 10 – 25 นิ้ว และมักจะขึ้นอยู่ตามพื้นดิน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวอาจจะได้พบกับหนึ่งพันธุ์ไม้หายากอย่างปาล์มหลังขาว และสัตว์แปลก ๆ หายาก เช่น ปลามังกร และกบทูด

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
น้ำตกแม่ยาย ตั้งอยู่ริมถนนสุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า บริเวณกิโลเมตรที่ 113 จุดปิกนิกยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมากินอาหารชมความงามของน้ำตก มีลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียวสูงประมาณ 30 เมตร
วังยาว เป็นวังน้ำสีเขียวสดใสสำหรับเล่นน้ำ มีขนาดกว้างใหญ่มากสามารถลงเล่นน้ำพร้อมกันได้มากกว่า 500 คน มีตลิ่งเป็นลานกว้าง เหมาะแก่การแวะมาเล่นน้ำและพักผ่อนอย่างมาก
ตั้งน้ำ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นแม่น้ำที่มาจากสันเขา 2 สัน มีลักษณะเป็นภูเขาที่โดนน้ำกัดเซาะ จนขาดออดจากกัน กลายเป็นหน้าผาที่หันหน้าเข้าหากัน ซึ่งหลายคนมาที่นี่เพื่อมาเคารพสถานที่ลอยอังคารท่านพุทธทาส
น้ำตกบางหัวแรดและน้ำตกวิ่งหิน น้ำตกบางหัวแรดมีชื่อเสียงอย่างมากทั้งในเรื่องของความงาม และกิจกรรมสุดมันส์อย่างล่องแก่ง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลแรงมาจากคลองศก มีลักษณะเป็นน้ำตก 2 ชั้น ชั้นแรกจะไหลจากบางหัวแรดแล้วไหลลงคลองศก ซึ่งชั้นที่สองจะอยู่ในคลองศก และจากน้ำตกบางหัวแรด ไปเพียง 120 เมตรก็จะพบกับน้ำตกขนาดเล็ก มีชื่อว่าน้ำตกวิ่งหิน
น้ำตกสิบเอ็ดชั้น มีลักษณะเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นชั้น ๆ ลดหลั่นกันมาตามร่องหน้าผา เป็นรูปขั้นบันได 11 ขั้น แต่ละขั้นสูงประมาณ 10 เมตร และห่างกันประมาณ 70 เมตร โดยชั้นล่างสุดของน้ำตกจะมีแอ่งน้ำ ซึ่งสามารถลงไปเล่นน้ำได้
น้ำตกโตนไทร ตั้งอยู่ในลำคลองสก เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก แต่มีความสวยงามและน่าหลงใหลไม่แพ้น้ำตกที่อื่น ๆ ซึ่งในการเดินทางเข้าเยี่ยมชมน้ำตกโตนไทร เนื่องด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล นักท่องเที่ยวจึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ
น้ำตกธารสวรรค์ เกิดจากลำห้วยบางพลูจืด ไหลลงสู่คลองสก เป็นน้ำตกที่ไหลพุ่งโค้งลงมาเป็นแนวคล้ายรุ้งกินน้ำจากยอดผาสูงชัน
น้ำตกโตนกลอย เกิดจากคลองศก มีลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียวดิ่งลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร มีน้ำไหลแรงตลอดปี และมีลานหินสำหรับพักผ่อนอยู่บนชั้นน้ำตก
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
เส้นทางน้ำตกสิบเอ็ดชั้น เป็นเส้นทางเดินที่ค่อนข้างชัน แต่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินเองได้โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางให้ ซึ่งเส้นทางในการเดินจะต้องปีนภูเขาสู่น้ำตกสิบเอ็ดชั้น ระยะทางเดิน 4 กิโลเมตร
เส้นทางเดินที่ใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางน้ำตกสิบเอ็ดชั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเองได้ ระยะทาง 2 กิโลเมตร เป็นเส้นทางวงกลม มีทางเดินเป็นแบบขั้นบันได
เส้นทางน้ำตกบางหัวแรด – น้ำตกโตนกลอย เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเองได้ เพราะเส้นทางการเดินไม่ลำบากนัก ซึ่งเส้นทางการเดินจากแพเพลินไพรจะเริ่มจากที่ทำการอุทยานฯ ข้ามคลองบางเลน ไปยังน้ำตกบางหัวแรด ที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 3 กิโลเมตร และเส้นทางนี้นักท่องเที่ยวจะได้พบกับน้ำตกหลายเส้น เช่น น้ำตกวิ่งหิน วังยาว น้ำตกธารสวรรค์ ตั้งน้ำ และน้ำตกโตนกลอย ซึ่งตลอดเส้นทางมีความยาวทั้งสิ้น 9 กิโลเมตร
การเดินทางจากเมืองสุราษฎร์มายังแพเพลินไพร
เดินทางโดยรถบัสโดยสารปรับอากาศ สาย 444 กระบี่ – พังงา – ทุ่งมะพร้าว – ปากทางทับละมุ – เขาหลัก – ปากทางน้ำเค็ม – ตะกั่วป่า – อุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งรถจะออกจาก บ.ข.ส. กระบี่ (ตลาดเก่า) ในเวลา 11.30 น. และรถออกจากปากทางอุทยานแห่งชาติเขาสก เวลา 09.00 น.
นั่งรถตู้ สุราษฎร์ – ตาขุน – เขื่อนรัชชประภา ที่ตลาดเกษตร 2 ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 150 บาท/คน




 รูปภาพแพเพลินไพร

แพโตนเตย เขื่อนเชี่ยวหลาน แพที่พักกลางธรรมชาติ ห้อมล้อมด้วยภูเขาสวยงาม

มกราคม 14, 2553
แพโตนเตย แพไม้ไผ่แอบอิงธรรมชาติที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์มากที่สุด อีกหนึ่งการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ และชมทิวทัศน์อันแสนงดงามอย่างจุใจ โดยแพโตนเตยนั้นเป็นแพที่พักในอุทยานแห่งชาติเขาสก เขื่อนรัชชประภาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งอยู่บริเวณคลองแปะ ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กันกับถ้ำน้ำทะลุ เหมาะกับการพักผ่อนสำหรับหนุ่มสาว วัยทำงานที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ เป็นบริเวณที่มีแมกไม้นานาพรรณอยู่อย่างหนาทึบ จึงทำให้มีเหล่าสัตว์ป่ามากมายหลากหลายชนิดแวะเวียนกันมาให้นักท่องเที่ยวได้เห็น โดยเฉพาะหมูป่ากับนกเงือก นกขนาดใหญ่ที่เป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของผืนป่า และยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวแบบ 1 day trip เช่น เดินป่า เที่ยวป่า เล่นน้ำ และนอนแพ

อุทยานแห่งชาติเขาสก ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2537 มีพื้นที่ทั้งหมด 461,712 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอคือ อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุนและอำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสผืนป่าที่มีความยิ่งใหญ่อย่างมากเป็นลำดับต้น ๆ ของภาคใต้ โดยสภาพทั่วไปจะเป็นภูเขาดินกับภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน แลดูแปลกตาด้วยหน้าผาสูงชัน ส่วนทางด้านทิศเหนือคือที่ตั้งของเขื่อนรัชชประภา ที่บริเวณทะเลสาบเหนือเขื่อนมีทิวทัศน์อันสวยงาม ราวกับกุ้ยหลินของเมืองจีน ซึ่งมีหลายคนเปรียบเปรยที่แห่งนี้ว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย นอกจากอุทยานแห่งชาติเขาสกนอกจากจะมีทิวทัศน์แสนงดงามแล้ว ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง และดูนก 

กิจกรรมที่น่าสนใจ
Morning Safari ทัวร์นั่งเรือส่องสัตว์ – ชมหมอกในยามเช้า เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่จะให้ทั้งความเพลิดเพลิน และได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่า ทั้งวิถีชีวิตกับพฤติกรรมสัตว์ที่ออกหากิน โดยเรือจะแล่นออกจากแพรีสอร์ท ลัดเลาะไปตามเส้นทางเกาะแก่งต่าง ๆ นักท่องเที่ยวจะได้ชมความงามของธรรมชาติทั้งสองข้างทาง ซึ่งในระหว่างเส้นทางส่องสัตว์ จะได้พบกับนกอินทรีขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า นกออกเกาะอยู่ตามตอไม้กลางน้ำ ได้เห็นเลียงผาออกมาเดินหากินตามผา ได้เห็นความน่ารักของฝูงค่างแว่นที่อยู่บนต้นไม้สูงใหญ่ ฝูงลิง กระรอกกับนกเงือกที่อยู่กันเป็นคู่ หรืออยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณกลุ่มละ 3 – 5 ตัว หากินบริเวณที่มีผลไทรป่าสุก และสัตว์ป่านานาชนิดที่อาศัยอยู่ในเขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งในระหว่างนั่งเรือทัวร์ส่องสัตว์ พนักงานขับเรือแนะนำว่าอย่าส่งเสียงดัง เพราะสัตว์จะเกิดอาการตกใจ และหนีหายไปหมด
ถ้ำน้ำทะลุ ใช้เวลาในการเดินทางเพียงไม่กี่นาทีจากแพโตนเตย เพราะเป็นแพที่พักที่อยู่ใกล้ทางเข้าเดินป่าที่สุด และในการเดินป่าไม่ควรที่จะใส่รองเท้าแตะ ควรเลือกเป็นรองเท้าผ้าใบจะดีที่สุด ส่วนเสื้อผ้าแล้วแต่จะสะดวก เพราะตอนเดินเข้าถ้ำก็จะตัวเปียกกันทุกคน ซึ่งบางจุดน้ำในถ้ำมีความสูงเลยหัวก็มี ไม่มีอันตราย แต่ก็ต้องคอยระมัดระวัง เพราะพวกหินที่คม ๆ ก็มีอยู่เยอะ และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่จะต้องพกติดตัวตลอดก็คือไฟฉาย ซึ่งมีวางขายบนฝั่ง เพราะบริเวณด้านในจะมองไม่เห็นอะไรเลย และตลอดเส้นทางจะได้พบกับค้างคาวที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเมื่อส่องไฟฉายไปก็จะเห็นแล้ว
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้แพโตนเตย
น้ำตกโตนกลอย เกิดจากคลองศก เป็นน้ำตกชั้นเดียวดิ่งลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร มีน้ำไหลแรงตลอดทั้งปี และบนชั้นน้ำตกมีลานหินสำหรับพักผ่อน
วังยาว เป็นวังเล่นน้ำที่ทั้งยาวและกว้าง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะลงไปเล่นน้ำได้พร้อม ๆ กัน ทีเดียวมากกว่า 500 คน
ตั้งน้ำ เป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน ซึ่งเกิดจากภูเขาที่ถูกน้ำกัดเซาะจนขาดออกจากกัน โดยมีลำคลองศกไหลลอดผ่านเบื้องล่าง
น้ำตกบางหัวแรดกับน้ำตกวิ่งหิน เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีต้นน้ำมาจากคลองศก มีลักษณะเป็นน้ำตกสองชั้น ซึ่งชั้นแรกจะไหลจากบางหัวแรดไหลลงคลองศก ส่วนชั้นที่สองจะอยู่ในคลองศก และห่างไปแค่ 120 เมตรจากน้ำตกบางหัวแรด ก็จะพบน้ำตกขนาดเล็กที่มีชื่อว่าน้ำตกวิ่งหิน
การเดินทาง
รถประจำทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี จะมีรถประจำทางวิ่งผ่านอยู่หลายสาย ให้ลงที่ อำเภอบ้านตาขุน (ปากทางเข้าเขื่อน) ต่อรถรับจ้างเข้ามายังตัวเขื่อน หรือจะโบกรถนักท่องเที่ยวขออาศัยไปด้วยก็ได้
รถตู้ เมื่อเดินทางมาถึงยังตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ให้ต่อรถตู้ไปยังอุทยาน ซึ่งจะมีรถตู้ปรับอากาศ สุราษฎร์ธานี – อุทยานแห่งชาติเขาสก ออกทุก ๆ ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 17.00 น. คิวรถตู้ที่เขาสก (สามแยกเข้าอุทยาน) โทร. 089-725-5517 และคิวรถตู้ที่ตลาดเกษตร 2 โทร. 077-206-217 อัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 120 บาท และ 200 บาท สำหรับส่งถึงสนามบิน
รถส่วนตัว จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ถนนทางหลวงเส้นหมายเลข 401 สุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า มุ่งหน้าสู่เขื่อนรัชชประภา เมื่อเจอสามแยกตลาดบ้านตาขุน ให้สังเกตป้ายเขื่อนรัชชประภาแล้วเลี้ยวขวา จากนั้นตรงมาเรื่อย ๆ ประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะถึงเขื่อนรัชชประภา ต่อมาให้ตรงมาที่ท่าเรือเทศบาล แล้วนั่งเรือต่อไปที่แพโตนเตย


 รูปภาพแพโตนเตย

กิจกรรมที่เขื่อนรัชชประภา สนุกตื่นตา น่าประทับใจ นอกจากเล่น้ำแล้วไปไหนได้อีก

มกราคม 12, 2553
เขื่อนรัชชประภา ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดิมมีชื่อว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการชลประทานกับการผลิตกระแสไฟฟ้า และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศวิวทิวทัศน์อันแสนสวยงาม จึงทำให้เขื่อนรัชชประภากลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยในอ่างเก็บน้ำจะมีแพที่พักให้บริการ และมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างเช่น เดินป่า ชมถ้ำ ส่องสัตว์ ล่องเรือชมธรรมชาติ และชมความงามของน้ำตกตั้งน้ำ อุทยานแห่งชาติเขาสก
ตั้งน้ำ

เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่งดงาม ทัศนียภาพที่เกิดจากภูเขาถูกน้ำกัดเซาะจนขาดออกจากกัน กลายเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน มีลำคลองสกไหลลอดผ่านเบื้องล่าง เป็นวังน้ำที่ลึกมาก มีปลาชุกชุม และสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะเป็นสถานที่ลอยอังคารของท่านพระพุทธทาส ภิกขุ โดยในช่วงวันที่ 17-19 เดือนตุลาคมของทุกปี ซึ่งจะกำหนดให้ตรงกับวันเสาร์-วันอาทิตย์ จะมีการจัดพิธีเขาสกรำลึกวันลอยอังคารท่านพุทธทาส มีการทำบุญวิปัสสนาบริเวณหน้าลานที่ทำการอุทยานฯ แล้วพาเดินเลียบน้ำตกคลองสก เพื่อมาประกอบพิธีสำคัญที่บริเวณตั้งน้ำ ซึ่งในการเดินทางไปยังตั้งน้ำ ต้องเดินทางโดยทางเท้าเข้าไป ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร
ล่องเรือชมกุ้ยหลินเมืองไทย

เขื่อนรัชชประภา มีจุดเด่นที่เป็นมนต์เสน่ห์สำคัญก็คือ ผืนป่าอันเขียวขจี ทะเลสาบกว้างใหญ่ ความสวยงามของสายน้ำสีเขียวมรกตที่สดใสกับความงดงามของภูเขาหินปูน ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปท่องเที่ยวที่เขื่อนรัชชประภาปีละเป็นจำนวนมาก และจุดที่เป็นไฮไลท์ของเขื่อนรัชชประภาก็คือ เขาสามเกลอ ที่ได้รับการขนานนามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” เป็นบริเวณที่มากไปด้วยยอดเขาหินปูนน้อย-ใหญ่ ในรูปทรงต่าง ๆ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือผิวน้ำ ซึ่งมีภูเขาหินปูนที่เป็นดาวเด่นถือเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนรัชชประภาก็คือ เขาสามเกลอ ยอดเขาเล็ก ๆ 3 ยอด ที่ตั้งโดนเด่นอยู่เหนือผืนน้ำ ดูแปลกตาแต่สวยงาม ในการเข้าชมกุ้ยหลินเมื่อไทยมีวิธีให้เลือกหลาหหลายทั้ง เที่ยวแบบ 1 วันเช้าไปเย็นกลับหรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการอิ่มเอมกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มก็มี แบบ 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืนไว้บริการ
น้ำตกธารสวรรค์

น้ำตกธารสวรรค์ หนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงของเมืองสุราษฎร์ธานี เกิดจากลำห้วยบางพลูจืด ไหลลงสู่คลองสก อยู่ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 9 กิโลเมตร มีเส้นทางเดินเท้าไม่ยาก ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ในระหว่างการเดินทางไปยังน้ำตกธารสวรรค์ จะต้องระมัดระวังตัวทากที่มีอยู่เยอะมากตามสภาพอากาศดิบชื้นของอุทยานฯ น้ำตกธารสวรรค์มีความโดดเด่นในเรื่องของความสวยงาม ตัวน้ำตกจะมีลักษณะเป็นสายน้ำไหลพุ่งโค้งลงมาเป็นแนวคล้ายรุ้งกินน้ำจากหน้าผาสูงชัน ทำให้เกิดภาพอันแสนงดงาม
ถ้ำน้ำทะลุ อุทยานแห่งชาติเขาสก

ถ้ำน้ำทะลุ ตั้งอยู่บริเวณชายขอบด้านทิศตะวันตกของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนรัชชประภา ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก 10 กิโลเมตร เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลลอดผ่านตลอดทั้งปี แวดล้อมไปด้วยผืนป่าที่ค่อนข้างทึบ ถ้ำกว้างประมาณ 10-50 เมตร ยาวประมาณ 680 เมตร บริเวณปากถ้ำมีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นหลืบโพรง ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามและยังคงมีการก่อตัวเกิดหินงอกหินย้อยอยู่หรือที่เรียกกันว่า “ถ้ำเป็น” ซึ่งการเข้าเที่ยวชมถ้ำน้ำทะลุจะต้องดูช่วงเวลาน้ำในเขื่อน โดยในช่วงของฤดูแล้ง จะสามารถเดินเข้าไปเที่ยวได้ไม่ยาก แต่หากเป็นช่วงน้ำเยอะจะต้องเกาะเรือคายักลอยคอเข้าชม ดังนั้นการเข้าเที่ยวชมถ้ำน้ำทะลุจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางทุกครั้ง ไม่ควรเข้าเที่ยวชมกันเอง เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ง่าย ๆ และควรสวมใส่เสื้อชูชีพติดตัวในระหว่างการเข้าชม
การเดินทางไปยังถ้ำน้ำทะลุ

    เส้นทางที่ 1 : เดินจาก กม.99 ฝั่งที่ทำการอุทยานเขาสก เดินป่าตัดผ่านภูเขา เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณปากถ้ำ
    เส้นทางที่ 2 : ไปทางเรือ นั่งเรือจากเขื่อนรัชชประภาหรือจากแพต่าง ๆ จากนั้นเดินเท้าไปตามเส้นทางเดินป่าประมาณ 2.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณปากถ้ำ ซึ่งเส้นทางเดินป่าไปยังถ้ำน้ำทะลุเป็นเส้นทางที่ร่มรื่น ตลอดเส้นทางต้องเดินผ่านลำธารเล็ก ๆ หลายจุด ในบางจุดอาจจะได้เจอฝูงนกเงือกที่เกาะอยู่บนต้นไม้ และอาจได้เห็นมีผีเสือลงกินโป่งเป็นฝูงใหญ่

แพนางไพร เขื่อนเชี่ยวหลาน แพสวย เงียบสงบ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ

มกราคม 10, 2553
แพนางไพร ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ 3 ที่พักริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ดูแลและให้บริการโดยอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นแพที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุดในบรรดาแพที่พักของอุทยาน บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บรรยากาศยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแสนจะโรแมนติก ส่วนตอนเช้าบรรยากาศก็แสนงดงาม และแพนางไพรยังเป็นบริเวณที่มีปลาตะเพียนหางแดงเยอะที่สุด (วังปลา) เป็นปลาน้ำจืดที่อยู่อาศัยกันเป็นฝูงหากินเองตามธรรมชาติ และจากบริเวณแพที่พัก นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคไปยังถ้ำประกายเพชรได้ เพราะอยู่ใกล้ภูเขาสามเกลอมากที่สุด ห้องพักเป็นห้องพักไม้ไผ่ ภายในห้องพักมีหลอดไฟ 1 ดวง ที่นอน หมอนและผ้าห่ม ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม แยกห้องอาบน้ำกับห้องสุขาชาย-หญิงอย่างชัดเจน และมีบริการพายเรือคายัค

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • ห้องอาหารของแพรีสอร์ท
  • พนักงานต้อนรับ
  • เรือคายัค
  • มุมชา กาแฟ (บริการฟรี)
  • จุดบริการทัวร์ / ร้านค้า
หมายเหตุ : ไฟฟ้าเป็นเครื่องปั่นไฟ เปิดให้ใช้โดยประมาณ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. ก่อนดับไฟจะมีการแจ้งล่วงหน้า และห้ามใช้ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผม เตารีด เนื่องจากไฟไม่พอ โทรศัพท์สามารถชาร์จได้ที่เคาน์เตอร์หรือห้องอาหาร ภายในห้องพักไม่มีปลั๊กไฟ

คำแนะนำ : ที่แพมีสัญญาณโทรศัพท์ AIS , เวลาทานอาหารมีน้ำดื่มให้บริการฟรี แต่ควรเตรียมน้ำดื่มกับขนมมาให้พอ เพราะร้านค้าบนแพค่อนข้างราคาสูง เวลาเล่นน้ำต้องสวมเสื้อชูชีพแม้ว่าจะว่ายน้ำแข็งมากแค่ไหนก็ตาม , ก่อนไปควรโทรจองแพที่พักและเรือรับส่งให้เรียบร้อย และควรพกยากันยุงติดตัวไปด้วย

กิจกรรม


  • ถ้ำประกายเพชร เป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา ที่ทางอุทยานแห่งชาติเขาสก ได้มีการเข้าไปสำรวจความเหมาะสมและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเที่ยวชม ปรากฏว่าเป็นสถานที่ที่มีความเหมาะสมอย่างมากที่จะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา และทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติกับชาวไทยได้ประทับใจในการเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถ้ำประกายเพชรมีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามแปลกตา มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องของหินปะการัง หินงอก หินย้อย ภายในถ้ำมีหินที่สะท้อนแสงมีประกาย จึงได้ชื่อว่าถ้ำประกายเพชร ซึ่งลักษณะหินย้อยของที่นี่จะแปลกตา เพราะเป็นหินย้อยเล็ก ๆ คล้าย ๆ ขนหรือรากแก้ว ส่วนพื้นถ้ำจะเปียกชื้นเป็นโคลนและลื่น ทำให้หินงอกที่อยู่ข้างล่างกลายเป็นจุดยึดของคนเดินถ้ำ ซึ่งความยาวภายในถ้ำประมาณ 100 เมตร
  • Morning Safari คือกิจกรรมล่องเรือสัมผัสกับธรรมชาติ สายหมอกยามเช้าที่คลอเคลียภูเขาหินปูนตั้งตระหง่านท่ามกลางผืนน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาล และชมนกดูสัตว์ภายในบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตกับพฤติกรรมสัตว์ที่ออกหากิน ซึ่งในระหว่างเส้นทางจะได้พบกับสัตว์ป่านานาชนิด อาทิ ฝูงลิง , ฝูงกระรอก , ฝูงค่างแว่นบนต้นไม้สูงใหญ่ , นกออกซึ่งเป็นนกอินทรีขนาดใหญ่เกาะอยู่ตามตอไม้กลางน้ำ , เลียงผาออกมาเดินหากินตามผา , นกเงือกหากินบริเวณที่มีผลไทรป่าสุก ซึ่งมักจะอยู่เป็นคู่หรือกลุ่มเล็กประมาณ 3-5 ตัว และสัตว์ป่านานาชนิดในเขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งทั้งนี้การจะได้เห็นสัตว์ต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับฤดูกาล สภาพอากาศกับช่วงเวลาที่เหมาะสม และในการล่องเรือชมนกดูสัตว์ จะต้องไม่ส่งเสียงดังอย่างเด็ดขาด เพราะสัตว์ต่าง ๆ จะตกใจและพากันหนีไปหมด

รูปภาพแพนางไพร

อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเขาดินกับภูเขาหินปูน ศูนย์กลางแห่งป่าฝน

มกราคม 06, 2553
อุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลคลองสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริเวณตอนใต้ของประเทศไทย คือดินแดนศูนย์กลางของขุนป่าแห่งป่าฝน เป็นผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญของภาคใต้ มีเนื้อที่ทั้งหมด 738.74 ตารางกิโลเมตร หรือราว ๆ 461,712.5 ไร่ อาณาเขตทิศเหนือจดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา ทิศใต้จดนิคมสหกรณ์พนม ทิศตะวันออกจดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงและเขื่อนรัชชประภา และทิศตะวันตกจดอุทยานแห่งชาติศรีพังงา มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอพนมและอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาดินกับภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน โดยเฉพาะช่องแคบเขากาเลาะมีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนที่มียอดแหลมระเกะระกะ มีแนวหน้าผาที่สูงชันบางแห่งป็นแท่งสูงขึ้นไปในอากาศคล้ายกันกับหอคอยสูง สภาพป่าโดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นป่าดงดิบชื้นที่สมบูรณ์มาก ลักษณะสภาพทั่วไปรกทึบ มีเรือนยอดต่อเนื่องจากชั้นบนสุดลงมาถึงพื้นดิน พบพันธุ์ไม้ที่สำคัญ เช่น ตะเคียนทอง ไข่เขียว จิกเขา นาคบุตร ยางเสียน ตาเสือ ตังหนใบใหญ่ เสียดช่อ คอแห้ง สะตอ เต้าหลวง ฯลฯ พืชพื้นล่าง เช่น ปุด เร่ว หวายขริง ปาล์มช้างไห้ หวายเดา ฯลฯ และด้วยความสมบูรณ์ของผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาสก จึงเป็นแหล่งรวมพืชหายากกับพืชเฉพาะถิ่น อาทิ สังวาลย์โนรี เอื้องฝาหอย มหาสดำ หมากพระราหู รองเท้านารีเหลืองกร บัวผุด ฯลฯ และอุทยานแห่งชาติเขาสก ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดกับสัตว์ป่าสงวนอย่าง แมวลายหินอ่อน เลียงผา เก้งหม้อ และสมเสร็จ
ประวัติความเป็นมา

เขาสก แต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า บ้านศก แต่ก่อนหน้านั้นเรียว่า บ้านศพ ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าบ้านศพนั้น คนเก่าแก่เล่าว่าเมื่อสมัยก่อนเป็นหมู่บ้าน อยู่กลางป่าไม่สามารถติดต่อกับที่ไหนได้เลย เมื่อในสมัยรัชกาลที่ 2 พม่าได้ยกทัพมาตีตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า ฉลาง (ภูเก็ต) ชาวบ้านจึงหนีเข้าป่าขึ้นเขานมสาวเขาสก แล้วมาตั้งบ้านเรือนเพื่อทำมาหากินปลูกพืชหาป่าล่าสัตว์ แต่ต่อมาได้เกิดโรระบาด ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บ้านศกจึงกลายเป็นบ้านร้าง

ต่อมาในปี พ.ศ. 2504 บริษัทมหาไทยได้ทำการตัดถนนจาก อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยังอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ผ่านบ้านศกและเขาสก โดยคนงานนับพันคนได้ทำการสร้างบ้านพักที่เชิงเขาพันธุรัตน์และล่าสัตว์โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ประกอบกับการเดินทางไปมาที่มีความสะดวก ชาวบ้านจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์กับสงขลา จึงเริ่มพากันมาจับจองที่ดิน ทำให้มีการตัดไม้ทำลายป่า ขอสัมปทานขุดแร่ และสัมปทานป่าไม้ ส่งผลให้ป่าไม้กับสัตว์ป่าลดลงอย่างมาก
การจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเขาสก

ในปี พ.ศ. 2519 ได้มีการสำรวจสภาพภูมิประเทศกับสภาพป่าทางเครื่องบิน พบว่าป่าโครงการไม้กระยาเลย คลองแสง คลองหยี เกือบทั้งหมดเป็นภูเขาสลับซับซ้อน โดยเฉพาะป่าบริเวณเขาสกเป็นป่าที่มีความสมบูรณ์ มีน้ำตกที่งดงามหลายแห่ง ซึ่งเป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำตาปี มีสัตว์ป่าชุกชุม และยังไม่เคยผ่านการทำไม้มาก่อน จึงน่าจะกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อจะได้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย และยังเป็นประโยชน์ในการท่องเที่ยว รวมถึงมีประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อม

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้ทำการนำเสนอต่อคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ มีมติเห็นชอบ ให้ป่าบริเวณคลองหยีและคลองพระแสง ในท้องที่ ตำบลไกรสร ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน และ ตำบลคลองศก ตำบลพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2523 และในปัจจุบันได้มีการผนวกพื้นที่ อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนรัชชประภา ซึ่งอยู่ในท้องที่ ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ซึ่งนับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 22 ของประเทศไทย
การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาสก

โดยรถยนต์ จะมีสองเส้นทางคือ จากอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีหรืออำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) แยกเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ตรงหลักกิโลเมตรที่ 109 ไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
อุทยานแห่งชาติเขาสก มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง
เส้นทางที่ 1 น้ำตกบางหัวแรด-น้ำตกโตนกลอย

เส้นทางนี้จะเริ่มเดินจากที่ทำการอุทยานฯ และข้ามคลองบางเลนไปยังน้ำตกบางหัวแรด ซึ่งเป็นน้ำตกขนาด 2 ชั้น ไม่สูงมาก แต่มีความสวยงามและน่าลงเล่นน้ำไม่น้อย โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 3 กิโลเมตร จากน้ำตกบางหัวแรดก็ให้เดินเลียบไปตามคลองสก ประมาณ 120 เมตร จะเจอกับน้ำตกวิ่งหิน เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางเดินเท้าเลียบคลองสกประมาณ 40 เมตรก็จะผ่านวังยาว ซึ่งเป็นวังน้ำลึก โดยให้เดินขึ้นภูเขาเตี้ยๆ ข้ามคลองสก ไปตามทางแยกซ้ายประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะเจอกับน้ำตกธารสวรรค์ ซึ่งมีลักษณะเป็นแนวโค้งคล้ายแนวรุ้งกินน้ำ มีความสวยงามมาก เมื่อออกจากน้ำตกแห่งนี้ก็ให้เดินเลียบคลองสกไปอีก 2 กิโลเมตร จะเจอกันต้นน้ำ ที่มีลักษณะเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน โดยแต่เดิมเป็นภูเขา แต่ถูกน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นลักษณะดังกล่าว โดยตรงจุดนี้ก็เป็นสถานที่ลอยเถ้าอังคารของท่านพุทธทาส จากนั้นก็ให้เดินเท้าปีนเขาไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกโตนกลอย ซึ่งเป็นน้ำตกชั้นเดียว มีน้ำไหลแรงตลอดปี โดยเมื่อรวมระยะทางทั้งหมดแล้ว มีความยาวประมาณ 9 กิโลเมตร เส้นทางเดินง่ายไม่ลำบาก นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินได้เอง
เส้นทางที่ 2 น้ำตกสิบเอ็ดชั้น

สำหรับเส้นทางนี้จะมีความลำบากหน่อย คือจะต้องปีนภูเขาสู่น้ำตกสิบเอ็ดชั้น และเส้นทางในการเดินมีความชันพอสมควร แต่ก็สามารถเดินเองได้โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ซึ่งมีระยะทางในการเดินทั้งหมดประมาณ 4 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 3 น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เป็นวงกลม

สำหรับเส้นทางนี้จะใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางที่ 2 นั่นเอง แต่จะเดินแบบเป็นเส้นวงกลม และมีทางเดินเป็นขั้นบันได ซึ่งเดินง่าย โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเหมือนกัน ซึ่งตามเส้นทางก็จะมีป้ายสื่อความหมายอยู่ และมีระยะทางในการเดินทั้งหมดรวม 2 กิโลเมตร
สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ

ในเขาสก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดดเด่นและเป็นที่นิยมดังนี้

    วังยาว เป็นจุดรวมของน้ำตกที่สวยงาม ได้แก่ น้ำตกบางหัวแรด เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มี 2 ชั้น โดยชั้นแรกจะไหลจากบางหัวแรดลงสู่คลองสก ส่วนชั้น 2 อยู่ในคลองสก และน้ำตกวิ่งหิน ซึ่งมีน้ำไหลลงมาบรรจบอย่างสวยงาม โดยเหนือขึ้นไปจากน้ำตกวิ่งหินประมาณ 40 เมตร ก็จะมีวังสำหรับเล่นน้ำเรียกว่า วังยาว เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำกันมากที่สุด และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น
    ตั้งน้ำ เป็นภูเขาที่ถูกน้ำเซาะจนมีลักษณะเป็นหน้าผาหันเข้าหากัน ส่วนเบื้องล่างจะมีคลองสกไหลผ่าน โดยสถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 6 กิโลเมตร แต่ต้องเดินทางโดยทางเท้าเข้าไปเท่านั้น
    น้ำตกโตนกลอย เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่เกิดจากคลองสก มีลานหินสำหรับนั่งพักผ่อนบนชั้นน้ำตกได้ และด้วยอากาศที่เย็นสบายจึงเหมาะกับการผ่อนคลายที่สุด โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 9 กิโลเมตร
    น้ำตกโตนไทร อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 11 กิโลเมตร โดยเป็นน้ำตกที่อยู่ในลำคลองสก มีขนาดไม่สูงนัก
    น้ำตกธารสวรรค์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 9 กิโลเมตร โดยเป็นน้ำตกที่มีความงดงามมาก ซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาชันและพุ่งโค้งคล้ายกัรุ้งกินน้ำ
    น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นรูปขั้นบันได 11 ชั้น โดยน้ำตกจะไหลลงมาเป็นชั้นๆ ลดหลั่นกันตามร่องหน้าผาอย่างสวยงาม บริเวณชั้นล่างสุดจะมีแอ่งน้ำสำหรับลงเล่นน้ำได้ โดยอยู่ห่างจากที่ทำการ 4 กิโลเมตร
    น้ำตกแม่ยาย เป็นน้ำตกชั้นเดียว รถยนต์เข้าถึงได้ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 4.5 กิโลเมตร

ความเป็นมาของเขื่อนเชี่ยวหลาน เขื่อนรัชชประภา และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

มกราคม 05, 2553
เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับฉายาว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย เพราะมีความสวยงามของเทือกเขาหินปูนเหมือนๆ กันกับ "กุ้ยหลิน" ที่ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน เขื่อนเชี่ยวหลานเป็นเขื่อนที่ก่อสร้างขึ้นมาตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 เพื่อช่วยอำนวยประโยชน์ในด้านสังคม เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยเขื่อนเชี่ยวหลานจัดเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและพลังงานไฟฟ้า โดยตั้งอยู่ในเขตอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขื่อนเชี่ยวหลานเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามเขื่อนแห่งนี้ว่า "เขื่อนรัชชประภา" ซึ่งมีความหมายว่า "แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร"

ลักษณะของเขื่อนเชี่ยวหลาน โรงไฟฟ้าและลานไกไฟฟ้า

การสร้างเขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ในปี พ.ศ. 2531 โดยเป็นการสร้างเขื่อนปิดกั้นแม่น้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี โดยเริ่มดำเนินลงมือก่อสร้างวันที่ 9 ก.พ. 2525 ก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 2530 และในวันพุธที่ 30 ก.ย. 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตรราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนเชี่ยวหลานและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ

เขื่อนเชี่ยวหลานเป็นเขื่อนประเภทเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว มีขนาดพื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร สามารถจุน้ำได้ถึง 5,640 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ย 3,057 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ขนาดสันเขื่อนมีความยาว 761 เมตร สูง 94 เมตร และมีสันเขื่อนขนาดเล็กปิดกั้นช่องเขาอีก 6 แห่ง อยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ 5 แห่ง และฝั่งซ้ายของแม่น้ำอีก 1 แห่ง

โรงไฟฟ้า เป็นอาคารแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ มีการติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า จำนวน 3 เครื่อง เครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังการผลิต 240,000 กิโลวัตต์ และให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี

ลานไกไฟฟ้า อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าประมาณ 100 เมตร ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ทำหน้าที่ในการส่งพลังไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงพังงาและสถานีไฟฟ้าแรงสูงสุราษฎร์ธานี

การเดินทางไปเขื่อนเชี่ยวหลาน แต่เดิมสามารถเดินทางเข้าไปได้จากอำเภอพนม บริเวณใกล้วิทยาลัยเกษตรฯ สุราาษฎร์ธานี แต่เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่มีความสลับซับซ้อน มีมีความลาดชันและโค้งเป็นจำนวนมาก จึงปิดตัวลงและสร้างเส้นทางใหม่เข้าไปทางตลาดอำเภอบ้านตาขุน

ประโยชน์ของเขื่อนเชี่ยวหลาน

  1. บรรเทาอุทกภัย การกักเก็บน้ำของเขื่อนในช่วงหน้าฝน สามารถช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในบริเวณพื้นที่ตอนล่าง
  2. การผลิตไฟฟ้า พลังน้ำจากเขื่อนเชี่ยวหลาน สามารถนำมาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ถึงปีละ 315 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งช่วยเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ให้มั่นคงมากขึ้น และน้ำที่ปล่อยผ่านเครื่องผลิตไฟฟ้า ยังสามารถนำไปส่งต่อเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรมบริเวณพื้นที่ท้ายน้ำได้
  3. การชลประทานเพื่อการเพาะปลูก ในฤดูแล้ง บริเวณสองฝั่งแม่น้ำในตอนล่าง เขตท้องที่ตำบลตาขุน อำเภอคีรีรัฐนิคม กับอำเภอพุนพิน ที่มีพื้นที่ประมาณ 100,000 ไร่ สามารถปลูกพืช และทำนาปรังได้ จากน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากเขื่อนเชี่ยวหลาน
  4. การประมง ในทุก ๆ ปี ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะทำการปล่อยยพันธุ์กุ้งกับปลาจำนวนมากลงไปในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งให้ผลผลิตทางด้านการประมงเฉลี่ย 300 ตัน ต่อหนึ่งปี จึงช่วยให้ราษฎรในพื้นที่มีรายได้เสริมเพิ่มมาอีกหนึ่งช่องทาง ทำให้อ่างเก็บน้ำของเขื่อนเชี่ยวหลานเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญแหล่งหนึ่ง
  5. แก้ไขน้ำเสีย และผลักดันน้ำเค็ม ในฤดูแล้ง ลำน้ำตาปี – พุมดวง จะมีสภาพน้ำที่มีปริมาณน้อย ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำเสียได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกันทางด้านบริเวณปากแม่น้ำจะมีน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาตามลำน้ำ ซึ่งน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากเขื่อนเชี่ยวหลานจึงช่วยในการเจือจางน้ำเสียในลำน้ำ และช่วยต้านทานการรุกล้ำของน้ำเค็มที่บริเวณปากแม่น้ำได้เป็นอย่างดี
  6. การท่องเที่ยว เขื่อนเชี่ยวหลานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพงดงาม สงบร่มรื่น และมียอดเขาหินปูนที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเยอะแยะ ซึ่งความงดงามของเขื่อนเชี่ยวหลานไม่แพ้กุ้ยหลินของเมืองจีน และด้วยทัศนียภาพที่งดงาม จึงทำให้ในปี ๆ หนึ่ง มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมความงดงามกว่าปีละ 70,000 คน ส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อพักค้างคืนเอาบรรยากาศธรรมชาติ

สถานที่ท่องเที่ยวน่าแวะชม ในเขื่อนเชี่ยวหลาน

  • น้ำตกแม่ยาย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 5.5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกแห่งเดียวภายในอุทยานแห่งชาติที่รถยนต์สามารถเข้าไปถึง มีลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียว สูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งในหน้าฝนน้ำจะเต็มหน้าผาที่สูงชันกระจัดกระจายแตกฟองขาวโพลน สวยงดงามมากๆ
  • น้ำตกวังหิน ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 2.8 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูงประมาณ 15 เมตร มีจุดชมวิวเรียกว่าน้ำตกบางวิ่งหิน เป็นจุดที่มองแล้วดูสวยงามอีกแห่งหนึ่ง และมีที่สำหรับเล่นน้ำพร้อมกันได้ไม่น้อยกว่า 500 คน เรียกว่าวังยาว เป็นวังที่ยาว และกว้าง
  • ตั้งน้ำ อยู่ห่างจากน้ำตกวิ่งหิน ประมาณ 3.2 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 6 กิโลเมตร ตั้งน้ำมีลักษณะเป็นภูเขาที่ถูกน้ำกัดเซาะจนขาดออกจากกัน ทำให้กลายเป็นหน้าผาที่หันหน้าเข้าหากัน มีลำคลองไหลศกไหลลอดผ่านบริเวณเบื้องล่าง เป็นวังน้ำที่ลึกมาก และมีปลาชุกชุม
  • น้ำตกโตนกลอย ตั้งอยู่ห่างจากตั้งน้ำ ประมาณ 1 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 7 กิโลเมตร น้ำตกโตนกลอยเป็นน้ำตกที่เกิดจากคลองศก มีความสวยงาม ลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียวดิ่งลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร มีน้ำไหลแรงตลอดทั้งปี และบนชั้นน้ำตกมีลานหินสำหรับพักผ่อน
  • น้ำตกธารสวรรค์ อยู่ห่างจากตั้งน้ำ ประมาณ 1 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 6 กิโลเมตร น้ำตกธารสวรรค์เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยบางพลูจืด ไหลลงสู่คลองสก น้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาชันพุ่งโค้งแบบรุ้งกินน้ำ ซึ่งเป็นน้ำตกที่งดงามมากแห่งหนึ่ง
  • น้ำตกโตนไทร ตั้งอยู่ห่างจากน้ำตกโตนกลอย ประมาณ 2 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เขื่อนเชี่ยวหลาน ประมาณ 11 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีความงดงามในลำคลองสก

ที่พักเขื่อนเชี่ยวหลาน

การเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ณ เขื่อนเชี่ยวหลาน แน่นอนว่านักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ควรพลาดกับการจับจองที่พักก่อนออกเดินทางเสมอ และนี่ก็คือ ที่พักเขื่อนเชี่ยวหลานที่น่าจับจอง โดยมีดังนี้

ที่พักแบบเรือนแพของทางอุทยานแห่งชาติเขาสก

  • แพนางไพร ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ 3 เป็นแพของอุทยานฯ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุด มีบริการเรือคายัค วิวทิศทัศน์หน้าแพสวยงาม ซึ่งเป็นจุดสำคัญของกุ้ยหลินเมืองไทย มีปลาตะเพียนหางแดงเยอะที่สุด (วังปลา)
  • แพคลองคะ ตั้งอยู่บริเวณคลองคะของอุทยานแห่งชาติเขาสก ณ ศูนย์พัฒนาการท่องเที่ยงคลองคะ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูง บริการเรือคายัคฟรี มีวิวทิวทัศน์สวยงามโดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น หน้าแพเป็นเวิ้งน้ำกว้างสะท้อนเงาได้เหมือนกระจก
  • แพโตนเตย ตั้งอยู่บริเวณคลองแปะ มีทิวทัศน์อันแสนงดงาม บรรยากาศเงียบสงบ มีเหล่าสัตว์ป่าแวะเวียนกันมาให้ได้เห็น โดยเฉพาะหมูป่ากับนกเงือก
  • แพไกรสร ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ 7 มีบรรยากาศงดงามและสงบ โดยเฉพาะในช่วงเช้ายามพระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดค่อย ๆ โผล่พันยอดเขา สวยงามมาก ๆ และยังเป็นจุดที่ใกล้บริเวณที่ฝูงกระทิงป่ากับนานาสัตว์ มาดื่มน้ำและหาอาหารในยามเย็น

ที่พักแบบเรือนแพของกรมป่าไม้

แพคลองหยา หรือ แพคลองแสง แพของทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งอยู่บริเวณเกือบจะถึงต้นน้ำสายนึงที่ไหลลงมาสู่ทะเลสาบเขื่อนรัชชประภา เป็นแหล่งปลาใหญ่ มีปลาเยอะ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เน้นมาตกปลา

ที่พักแบบเรือนแพของทางเอกชน

  • แพเพลินไพร ตั้งอยู่ในคลองโหลง บรรยากาศส่วนตัวเป็นกันเอง ธรรมชาติสวยงาม บริการเรือคายัคฟรี แต่มีค่ามัดจำไม้พาย 500 บาท ซึ่งหากเอาไม้มาคืนก็ได้มัดจำคืน
  • แพสายชล ตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของอุทยานแห่งชาติเขาสก บรรยากาศเงียบสงบ วิวสวย อากาศดี มีบริการเรือคายัค
  • แพเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ในบริเวณโซนอ่าวโหลง ห้องพักกว้างขวางมีห้องน้ำในตัว มีที่กระโดดน้ำ เรือแคนนูและมีคาราโอเกะไว้ให้บริการ
  • แพ 500 ไร่ อยู่ในจุดศูนย์กลางของธรรมชาติและจุดท่องเที่ยวอันอุดมสมบูรณ์ที่สุดในเขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่บริเวณทะเลใน 500 ไร่ ตรงข้ามกับถ้ำปะการัง วิวทิศทัศน์งดงาม บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว
  • แพภูตะวัน ตั้งอยู่ในบริเวณคลองมุย ล้อมรอบไปด้วยภูเขาหินปูนที่สูงชันอยู่ในเขื่อนทั้ง 4 ด้าน ในช่วงเย็นจะได้พบกับดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าตรงบริเวณภูเขาด้านหน้าของแพพอดี ด้านหน้าแพแต่ละหลังเป็นกระจกใส จึงสามารถชมความงามของเขื่อนได้จากภายในแพที่พัก
  • แพไพรวัลย์ ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงในเขตของทะเลใน 500 ไร่ บรรยากาศงดงามและเป็นส่วนตัว บนเรือนแพกลางมีพื้นที่ลานกว้างให้ทำกิจกรรม

สุราษฎร์ธานี แหล่งท่องเที่ยวงาม ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์

มกราคม 04, 2553

ทำความรู้จักจังหวัดสุราษฎร์ธานี

จังหวัดสุราษฎร์ธานี คำขวัญประจำจังหวัดคือ “เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ” เป็นจังหวัดในภาคใต้ตอนบน มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 64 ของประเทศ และมีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ เมืองสุราษฎร์ธานี ถือเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน



ประวัติจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ในพุทธศตวรรษที่ 13 มีหลักฐานปรากฏว่าเมืองแห่งนี้ได้รวมเข้ากันกับอาณาจักรศรีวิชัย และเป็นศูนย์กลางของเมืองศรีวิชัย แต่เมื่ออาณาจักรเสื่อมลง จึงถูกแยกออกเป็น 3 เมืองคือ เมืองไชยา เมืองท่าทอง และเมืองคีรัฐ ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช

ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งอู่เรื่อพระที่นั่งกับเรือรบ เพื่อนำมาใช้ในราชการที่อ่าวต่อมา ถัดมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ย้ายเมืองท่าทองมาตั้งที่บ้านดอน (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี) และยกฐานะให้เป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ พระราชทานนามเมืองแห่งนี้ว่าเมืองกาญจนดิษฐ์ และเมื่อได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบมณฑล ก็ได้รวมเมือง 3 เมืองได้แก่ เมืองไชยา เมืองกาญจนดิษฐ์กับเมืองคีรีรัฐนิคม มาเป็นเมืองเดียวกันเรียกว่าเมืองไชยา ภาคใต้สังกัดมณฑลชุมพร และเมื่อเมืองมีการขยายใหญ่โตขึ้น จึงได้มีการปรับเปลี่ยนการปกครองและขยายเมืองออกไป ได้มีการสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาที่อ่าวบ้านดอน มีชื่อเมืองใหม่ว่าอำเภอไชยา และต่อมาใน พ.ศ. 2458 รัชกาลที่ 6 โปรดให้เปลี่ยนชื่อเมืองไชยา มาเป็นเมือง สุราษฎร์ธานี มีความหมายว่าเมืองแห่งคนดี และเมืองเก่าให้ชื่อว่าอำเภอไชยา

ภูมิประเทศกับภูมิอากาศ

ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัด สุราษฎร์ธานี ประมาณ 49% ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นภูเขา มีเทือกเขาสูงทอดยาวตามแนวเหนือใต้ของพื้นที่จังหวัด และด้วยลักษณะภูมิประเทศ ก่อให้เกิดลุ่มน้ำน้อยใหญ่ มีทั้งหมด 14 ลุ่มน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ลุ่มน้ำตาปี ท่าฉาง ไชยา ท่าทอง ท่ากระจาย พุมดวง เป็นต้น ทางด้านตะวันออกเป็นฝั่งทะเลอ่าวไทย มีเกาะน้อยใหญ่ และมีประชากรอาศัยอยู่ ทางด้านตะวันตกมีลักษณะเป็นภูเขาสูง มีแม่น้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง กับแม่น้ำคีรีรัฐ และทำเลที่ตั้งรวมถึงภูมิประเทศ พื้นที่ของจังหวัด สุราษฎร์ธานี จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านอ่าวไทย และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากมหาสมุทรอินเดีย จึงทำให้มีช่วงฤดูฝนที่ยาวนาน ตั้งแต่ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มกราคม

ประเพณีกับวัฒนธรรม

วันสารทไทย หรือสารทเดือนสิบ

วันสารทไทย หรือสารทเดือนสิบ เป็นวันที่ถือกันว่าท่านพญายมจะทำการปล่อยตัวผู้ล่วงลับไปแล้ว (เรียกว่า เปรต) มาจากนรก โดยจะเริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 10 ซึ่งในวันนี้บางคนก็จะทำการประกอบพิธี หรือบางคนก็จะประกอบพิธีในวันแรม 13 ค่ำ 14 ค่ำ และ 15 ค่ำ โดยจะนำข้าวปลาอาหาร และขนมกระยาสารทไปทำบุญตักบาตรที่วัด เรียกว่าหมรับเล็ก เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วตามความเชื่อ และเป็นการต้อนรับบรรพบุรุษญาติมิตรที่ขึ้นมาจากนรก

กีฬาชนควาย

กีฬาชนควาย เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ขึ้นชื่อของจังหวัด สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับกีฬาชนวัวของจังหวัดสงขลา โดยจะมีการจัดขึ้นที่เกาะสมุย พื้นที่ที่นิยมกีฬาชนควายอย่างมาก และจะจัดขึ้นในโอกาสที่มีงานมงคล หรือมีงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่หรือตรุษสงกรานต์

งานเทศกาลกินหอยนางรมฟรี

งานเทศกาลกินหอยนางรมฟรี หอยนางรมเป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของจังหวัด สุราษฎร์ธานี ซึ่งหอยนางรมของที่นี่จะมีรสชาติหวาน มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ โดยจะมีการจัดงานเทศกาลที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ ในช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคมของทุกปี

งานวันเงาะโรงเรียน

งานวันเงาะโรงเรียน เงาะโรงเรียน หรือเงาะพันธุ์โรงเรียน เนื้อในหวาน กรอบ ล่อนไม่ติดเมล็ด เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของ สุราษฎร์ธานี ซึ่งจัดเป็นเงาะพันธุ์ที่ดี่ที่สุดทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งงานวันเงาะโรงเรียนจะจัดขึ้นในบริเวณสนามศรีสุราษฎร์ และริมเขื่อนแม่น้ำตาปีในตัวเมือง ช่วงประมาณวันที่ 2 – 8 สิงหาคมของทุกปี 

งานประเพณีชักพระ

งานประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่า และแข่งขันเรือยาว ประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่า และแข่งขันเรือยาวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นงานใหญ่งานหนึ่งของภาคใต้ จัดขึ้นบริเวณเขื่อนลำน้ำตาปี ตั้งแต่บริเวณจากศาลหลักเมืองจนถึงโรงแรมวังใต้ มีอีกชื่อหนึ่งว่างานเดือนสิบเอ็ด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับเทศกาลออกพรรษา มีกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การประกวดเรือพระ จะมีทั้งรถพนมพระกับเรือพนมพระ โดยอาจจะตกแต่งประดับประดาด้วยการแกะสลัก หรือฉลุไม้ ตกแต่งจำลอง เสมือนกับฉากที่พระพุทธเจ้ากลับมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยในงานพิธีจะใช้คนลาก ซึ่งมีความเชื่อว่าผู้ที่ได้ร่วมลากจูงรถหรือเรือพนมพระ จะได้รับอานิสงส์หลายประการ

การละเล่นพื้นบ้าน

การละเล่นผู้ใหญ่ เช่น หนังตะลุง ลิเกป่า มโนห์รา คำตัด เพลงชักพระอำเภอเกาะพะงัน เพลงบอก และเพลงนา
การละเล่นเด็ก เช่น หมากขุม ทอยหลุม เหยกเตย หมากโตน ลูกฉุด บอกโผละ กบกับ ลูกหวือ จุ้มจี้ จี้จิบ ทองสูง และชักลูกยาง

อาหารพื้นบ้าน

ผัดไทยท่าฉาง และผัดไทยไชยา หรืออาจะเรียกรวมกันว่า ผัดไทย สุราษฎร์ธานี เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กผัดใส่น้ำกะทิพร้อมทั้งเครื่องแกง จึงเป็นผัดไทยที่มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย
พระรามลงสรง มีลักษณะคล้ายคลึงกับราดหน้าผักบุ้ง เครื่องปรุงมี น้ำแกงข้น น้ำพริกเผา 1 ช้อน นำมาราดลงบนผักบุ้งลวกกับเนื้อแดงหั่นชิ้นเล็กลวกสุก แล้วนำมาราดบนเส้นหมี่หรือข้าวสวย
สาหร่ายข้อ หรือสาหร่ายเขากวาง นิยมนำมายำกับกะปิเล็กน้อยใส่หอยแครงลวกสุกยำรวมกัน มีทานที่พะงันกันสมุย สาหร่ายไม่มีกลิ่นคาว
หอยนางรมสุราษฎร์ธานี อาหารทะเลรสชาติขึ้นชื่อ มี 2 ชนิดคือ หอยตะโกรม เป็นหอยชนิดพันธุ์ใหญ่ และหอยเจาะ ชนิดพันธุ์เล็ก โดยจะพบมากในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนเมษายน

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

1. เกาะสมุย

เกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยความงดงามของธรรมชาติ หาดทรายขาวละเอียดทอดขนานไปกับทิวมะพร้าวริมชายหาด น้ำทะเลใส เกาะสมุยจึงได้รับการขนานนามว่า สวรรค์กลางอ่าวไทย เกาะสมุยมีชายหาดสวยงามที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่ง เช่น หาดตลิ่งงาม ขึ้นชื่อในเรื่องของพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะ, หาดเฉวง เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดบนเกาะ หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส และหาดละไม หาดใหญ่อันดับสองรองจากหาดเฉวง มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของความโค้งของอ่าวกับทิวมะพร้าวที่ปลูกเป็นแนว

ที่ตั้ง : ตอนกลางของอ่าวไทยนอกชายฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
การเดินทาง : โดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 35 ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์จนถึงชุมพร ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอไชยา จนถึงสุราษฎร์ธานี จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีขับรถไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ถึงเกาะสมุย
ไฮไลท์ : หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสกับธรรมชาติที่สวยงาม

2. เกาะพะงัน

เกาะพะงัน คือเกาะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกับชาวไทยรู้จักกันในชื่อของเกาะแห่งปาร์ตี้ เพราะเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่ติดอันดับโลก “ฟูลมูนปาร์ตี้” เกาะพะงันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีชายหาดขาว น้ำทะเลใส ทัศนียภาพงดงาม เช่น หาดริ้นนอก ชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะพะงัน , อ่าวศรีธนู ชายหาดที่มีความสวยงามเป็นอันดับสามของเกาะพะงัน , หาดท้องศาลา ศูนย์กลางท่องเที่ยวกับธุรกิจต่าง ๆ มีอ่าวจอดเรือที่สวยงาม , อ่าวโฉลกหลำ เป็นแหล่งอาหารทะเลและสถานที่เล่นวินต์เซิร์ฟ-ไคต์เซิร์ฟ , วัดพุทธเจดิยาราม (วัดเขาน้อย) มีเจดีย์สีขาวสูงตระหง่าน อายุกว่าร้อยปี ซึ่งเป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “พ่อท่านหลบ ธัมมวโร” ฯลฯ

ที่ตั้ง : เกาะกลางน้ำอ่าวไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
การเดินทาง : เมื่อถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ต่อเรือไปยังเกาะพะงัน โดยมีเรือให้บริการ 3 แบบด้วยกันคือ เรือเฟอร์รี่ เรือด่วน และเรือนอน
ไฮไลท์ : งานฟูลมูนปาร์ตี้ งานปาร์ตี้ติดอันดับโลก

3. อุทยานแห่งชาติเขาสก

อุทยานแห่งชาติเขาสกเป็นผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ 2,296,879.5 ไร่ ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติเขาสก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา อุทยานแห่งชาติศรีพังงา และอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง อุดมไปด้วยพืชพรรณมากมายหลายชนิด เช่น บัวผุด ปาล์มเจ้าเมืองถลางหรือปาล์มหลังเขา ปาล์มพระราหู ฯลฯ และยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ได้แก่ เก้งหม้อ เลียงผา สมเสร็จ และแมวลายหินอ่อน นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติเขาสกยังมีทิวทัศน์และธรรมชาติที่แสนงดงาม โดยเฉพาะเทือกเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเหนือผืนน้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา จนได้รับฉายาว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองไทย

ที่ตั้ง : ตำบลคลองสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
การเดินทาง : จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 (เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) ถึงกิโลเมตรที่ 109 มีแยกขวาไปอีก 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณที่ทำการอุทยานฯ
ไฮไลท์ : ดอกบัวผุด ดอกไม้ขนาดใหญ่หาดูได้ยาก โดยจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมกราคมของทุกปี

4. หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง ประกอบด้วยเกาะ 42 เกาะ ได้แก่ เกาะไผ่ลวก เกาะหินดับ เกาะสามเส้า เกาะนายพุด เกาะพะลวย เกาะแม่เกาะ เกาะวัวตาหลับ ฯลฯ ซึ่งตามเกาะต่าง ๆ จะมีหาดทรายอยู่เกือบทุกเกาะ บางเกาะมีปะการังตามชายทะเลหลายชนิด บางเกาะมีหาดทรายขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง อาทิ เกาะหินดับ มีหาดทรายสวยงาม ทัศนียภาพรอบเกาะงดงามน่าชม , เกาะวัวตาหลับ หาดทรายขาวสะอาด บนยอดเขามีจุดชมทิวทัศน์ สามารถมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทั้งหมดที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาว และเกาะสามเส้า แหล่งปะการังที่สวยงาม หาดทรายขาวสะอาด มีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกในในทะเล

ที่ตั้ง : อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดฤดูกาลการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม – 31 ตุลาคม ของทุกปี และปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 23 ธันวาคมของทุกปี
การเดินทาง : เดินทางโดยเรือนำเที่ยวจากท่าเรือบ่อผุดหรือจากท่าเรือหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ไฮไลท์ : ชมทิวทัศน์ 360 องศา ที่จุดชมวิวบนยอดเขาของเกาะวัวตาหลับ

5. เกาะเต่า-เกาะนางยวน

เกาะเต่า ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะคือ เกาะเต่ากับเกาะนาง ชายหาดมีความสวยงามทรายสะอาดบริสุทธิ์ สลับกับโขดหินรูปทรงแปลกตา หลาย ๆ คนจึงเรียกที่แห่งนี้ว่า เกาะสวาทหาดสวรรค์ ส่วนโลกใต้ทะเลได้รับการยกย่องให้เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ เพราะมีความงดงามอย่างมาก และปะการังมีความอุดมสมบูรณ์ เกาะเต่า-เกาะนางยวนมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น อ่าวจันทร์สม หาดขนาดไม่ใหญ่มาก ชายหาดมีทั้งที่เป็นโขดหินกับทรายละเอียด น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต , อ่าวแม่หาด เป็นเหมือนกับเมืองหลวงของเกาะเต่า เพราะแม่หาดเป็นท่าเรือ และแหล่งชุมชน ร้านค้า สถานที่ราชการกับรีสอร์ทที่พัก และอ่าวหินวง น้ำทะเลใสมาก บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน   

ที่ตั้ง : อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
การเดินทาง : โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทาง ถนนพระราม 2 หรือ ธนบุรี ปากท่อ มุ่งหน้าจังหวัดสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดเพชรบุรี มุ่งหน้าสู่จังหวัดชุมพร-สุราษฎร์ธานี ต่อเรือที่ท่าเรือเร็วลมพระยาหรือท่าเรือซีทราน
ไฮไลท์ : จุดดำน้ำ ติดอันดับ 1 ใน 10 จุดดำน้ำที่สวยที่สุดในประเทศไทย

6. น้ำตกวิภาวดี

น้ำตกวิภาวดี (ชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดี รังสิต) หรือชื่อเดิม น้ำตกคลองพาย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า น้ำตกหม่อมเจ้า เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาแดน แล้วไหลมาตามลำน้ำคลองพาย น้ำตกมีทั้งหมด 9 ชั้น โดยชั้นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดคือ น้ำตกชั้นที่ 2 มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงประมาณ 15-20 เมตร มีสายน้ำสีขาวกระโจนลงมาสู่แอ่งน้ำด้านล่าง บริเวณรอบน้ำตกคือผืนป่าที่มีความชุ่มฉ่ำ จึงเหมาะอย่างมากสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ

ที่ตั้ง : บ้านเชี่ยวมะปราง หมู่ 2 ตำบลตะกุกใต้ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 16.00 น.
การเดินทาง : น้ำตกวิภาวดีอยู่ห่างจากอำเภอเมืองฯ 38 กิโลเมตร อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 401 บริเวณกิโลเมตรที่ 60-61 ก่อนถึงทางแยกเลี้ยวเข้าอำเภอดอนสัก มีแยกทางขวามือปากทางเข้าน้ำตก ที่บ้านเชี่ยวมะปราง หมู่ 2 ตำบลตะกุกใต้ สภาพถนนเป็นดินรุงรังบางส่วนลาดยาง
ไฮไลท์ : บรรยากาศธรรมชาติอันงดงาม และความสวยงามของน้ำตก

7. น้ำตกดาดฟ้า

น้ำตกดาดฟ้า เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีทั้งหมด 22 ชั้น ชั้นที่สูงที่สุดมีหน้าผาสูงชันประมาณ 80 เมตร บริเวณน้ำตกดาดฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นป่าดงดิบชื้นสภาพสมบูรณ์ มีต้นไม้สูงใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนตามพื้นล่างก็มีเฟินกับหวายขึ้นอยู่หนาแน่น ในช่วงหน้าฝนน้ำตกจะมีน้ำมากไหลพรั่งพรูเต็มหน้าผา ดูงดงามราวกับไหลลงมาจากฟากฟ้า น้ำตกแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า น้ำตกดาดฟ้า

ที่ตั้ง : ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ตำบลลำพูน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.30 – 16.00 น.
การเดินทาง : โดยรถยนต์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4009 สายอำเภอบ้านนาสาร-สุราษฎร์ธานี ห่างจากตัวเมือง 33 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวเข้าถนน รพช. เข้าสู่น้ำตก ประมาณ 13 กิโลเมตร
ไฮไลท์ : ความงามของน้ำตก ในช่วงหน้าฝน

8. เขื่อนเชี่ยวหลาน

เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา คือเขื่อนอเนกประสงค์ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อมาพัฒนาแหล่งน้ำและพลังงานไฟฟ้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพอันงดงาม บรรยากาศเงียบสงบ น้ำใสสีเขียวมรกต รายล้อมด้วยภูเขาหินปูนยอดแหลม แนวหน้าผาสูงชัน กลางสายน้ำของเขื่อนเชี่ยวหลาน และโอบล้อมด้วยธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง และภายในบริเวณเขื่อนเชี่ยวหลาน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกหลายแห่ง เช่น หิน 3 เกลอ เป็นเสาหินหรือเกาะหินปูนกลางน้ำตั้งตระหง่านเรียงรายกลางท้องน้ำสีมรกต ดูแปลกตาแต่สวยงาม จนได้ชื่อว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองไทย, ถ้ำน้ำทะลุหรือถ้ำน้ำหลุ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย รวมทั้งโขดหินที่เกิดขึ้นมาจากการกัดเซาะของสายน้ำจนมีรูปร่างที่แปลกตา, จุดชมวิวไกรสร ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสความงามของทิวทัศน์เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภาได้รอบทิศทาง 360 องศา, น้ำตกธารสวรรค์ น้ำไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันพุ่งโค้งแบบรุ้งกินน้ำ เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงาม และตั้งน้ำ วังน้ำลึกที่มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา และเป็นสถานที่ลอยอังคารของท่านพุทธทาส ภิกขุ ฯลฯ

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัด สุราษฎร์ธานี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 16.00 น.
การเดินทาง : โดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร ให้ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงอำเภอพุนพิน ตรงสี่แยกที่สามารถเข้าจังหวัด สุราษฎร์ธานีได้ ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด แต่ให้ตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงแยกท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 401 จากนั้นประมาณ 40 กิโลเมตร ก่อนจะถึงตัวอำเภอบ้านตาขุน จะมีป้ายใหญ่ของเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อยู่ทางขวามือ
ไฮไลท์ : ล่องเรือชมกุ้ยหลินเมืองไทย ที่มีความงดงามที่ติดอันดับของโลก